Mlac : DH

1. ระบบการผสมพันธุ์
        การสืบสายพันธุ์และการเพาะขยายพันธุ์หนูตะเภามีระบบการผสมพันธุ์แบบ Polygamous โดยมีอัตราส่วนเพศผู้ต่อเพศเมีย 1:5 อยู่ด้วยกันตลอดเวลา
2. การจัดการสภาพแวดล้อม
        มีการควบคุมสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้แก่ การระบายอากาศ อุณหภูมิ และความชื้น ภายใต้ระบบ HVAC
   • อุณหภูมิที่ควบคุมอยู่ระหว่าง 24±3 องศาเซลเซียส
   • ความชื้นที่ควบคุมอยู่ระหว่าง 60±10%
   • อัตราการระบายอากาศ 15-20 รอบต่อชั่วโมง
   • ระยะเวลาการให้แสงสว่าง 12 ชั่วโมง และมืด12 ชั่วโมง
   • หนูตะเภาเป็นสัตว์ที่ตื่นตกใจต่อเสียงง่าย ภายในห้องเลี้ยงจะควบคุมเสียงไม่เกิน 85 เดซิเบล
3. การเลี้ยง
        กรงสแตนเลสพื้นตันเป็นกรงที่เหมาะสมสำหรับการเลี้ยงหนูตะเภา เพื่องานทางวิทยาศาสตร์และการทดลองต่าง ๆ กรงไม่ควรมีส่วนแหลมคมหรือขรุขระ เพื่อป้องกันอันตรายไม่ให้สัตว์ทดลองเกิดบาดแผล และควรได้รับการทำความสะอาดอย่างน้อย 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ หรือขึ้นอยู่กับความสะอาดของกรง
4. การให้อาหารและน้ำ
         อาหารที่ใช้เลี้ยงหนูตะเภาเป็นอาหารสำเร็จรูปผลิตโดยบริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป จำกัด และให้หญ้าแห้งที่ผ่านการอบนึ่งฆ่าเชื้อ โดยให้กินอย่างเพียงพอต่อความต้องการของสัตว์ในแต่ละวัน สำหรับน้ำที่ใช้เลี้ยงสัตว์ทดลอง จะเป็นน้ำ RO ที่ผสมคลอรีนความเข้มข้น 5-7 ppm. เพื่อให้ปราศจากเชื้อ และน้ำจะถูกบรรจุใส่ขวดพร้อมด้วยหลอดเพื่อใช้เลี้ยงสัตว์ 
5. การใช้วัสดุรองนอน
         วัสดุรองนอนที่ใช้เลี้ยงสัตว์ทดลอง ทำมาจากแกนข้าวโพด (Corn cob), ผักตบชวา (Water Hyacinth)และ ขี้กบไม้สน (Wood shavings) ทั้งนี้ วัสดุรองนอนที่แห้งจะถูกบรรจุด้วยถุงกระดาษสีน้ำตาล และผ่านการอบนึ่งฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิ 135 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 7 นาที ก่อนนำน้ำไปใช้งาน

1. โภชนาการ (Nutrition) หนูตะเภามีความต้องการสารอาหารสูง โดย เฉพาะ กรด Folic, Thiamine, Arginine และ Potassium เหมาะสำหรับ ศึกษาด้านโภชนาการ เป็นต้น
2. จุลชีววิทยา (Microbiology) ได้แก่ การทดสอบกับเชื้อ Coxiella burnetii, Mycobacterium sp. และ Listerisium sp. เป็นต้น
3. พยาธิวิทยา (Pathology) หนูตะเภานิยมใช้ในงานวิจัยด้านโรคภูมิแพ้และใช้ในการศึกษาเกี่ยวกับการบำบัดรักษาบาดแผล กระดูก ฟัน และโรคกระดูกพรุน และมีการนำไปใช้ในการทดสอบยากันแมลงโดยใช้เป็นแหล่งอาหารของแมลงดูดกินเลือด
4. สรีรวิทยา (Physiology) หนูตะเภามีโครงสร้างหูที่เหมาะสมต่อการศึกษาเกี่ยวกับช่องหู และลูกหนูแรกเกิดใช้ในการศึกษาด้านประสาทวิทยา  

คลิกที่นี่ เพื่อดูราคาสินค้า หรือ คลิกที่นี่ เพื่อดูผลิตภัณฑ์ตามหมวดสินค้า